What If ? : ถ้า "เมสซี่" จะรีเทิร์นจริง บาร์เซโลน่า ต้องดำเนินการอย่างไร
ออนไลน์ เว็บไหนดี มาที่นี้เลย เว็บหวยออนไลน์จ่ายจริง.com 900/95
บาร์เซโลน่า ยังคงเป็นดาวเด่นของตลาดซื้อขายนักฟุตบอลรอบนี้ เพราะท่ามกลางสภาพปัญหาการเงินที่เรื้อรัง พวกเขายังคงเดินหน้าล่านักเตะชื่อดังเข้าสู่ทีมอย่างไม่หยุดยั้ง แถมยังรักษาแข้งตัวหลักไว้กับทีมได้อีก
หนึ่งในข่าวซื้อตัวที่น่าสนใจที่สุดของบาร์ซ่าในขณะนี้ย่อมหนีไม่พ้นความเคลื่อนไหวที่พวกเขามีต่อ ลิโอเนล เมสซี่ ตำนานหมายเลข 10 ของทีม ซึ่งมีกระแสออกมาอย่างต่อเนื่องว่าจะกลับมาสวมเสื้อของทัพอาซูลกราน่าในฤดูกาลหน้าอีกครั้ง
Main Stand จะชวนมาพูดถึงโอกาสการกลับมาสู่ถิ่นคัมป์ นู อีกครั้งของเมสซี่ และสิ่งที่บาร์เซโลน่าต้องจัดการหากพวกเขาคิดคว้าซูเปอร์สตาร์ค่าตัวมหาศาลรายนี้เข้ามาสู่ทีม…
สิ่งแรกที่ทุกคนควรเข้าใจเกี่ยวกับการกลับมาสู่บาร์เซโลน่าของ ลิโอเนล เมสซี่ ตำนานหมายเลข 10 แห่งคัมป์ นู ที่ไม่มีทางจะกลับมาสู่สโมสรที่เขารักภายในฤดูกาล 2022-23 หรือถ้าจะสรุปให้ง่ายกว่านั้นคือแฟนบอลบาร์เซโลน่าจำเป็นต้องรอต่อไปอีกหนึ่งปี หากหวังจะได้เห็นเมสซี่กลับมาโลดแล่นให้กับทีมอีกครั้ง
เหตุผลง่าย ๆ ที่ทำให้การย้ายทีมในฝันของใครหลายคนจะยังไม่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้แม้เมสซี่จะมีความเคลื่อนไหวหลายอย่างที่พัวพันกับบาร์เซโลน่า (เช่น การเลือกเดินทางมาพักร้อนกับครอบครัวที่นี่) เป็นเพราะเขายังเหลือสัญญาอีกหนึ่งปีกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต้นสังกัดปัจจุบันของเจ้าตัว
เนื่องด้วยปัญหาการเงินที่นำมาสู่ดราม่ามากมายในขณะนี้ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่บาร์เซโลน่าจะควักเงินจำนวนหนึ่งเพื่อซื้อตัวเมสซี่มาจากเปแอสเช โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเหนื่อยมหาศาลของเจ้าตัวที่ปัจจุบันรับอยู่ในถิ่นปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เป็นจำนวน 40.5 ล้านยูโรต่อปี หรือเกือบ 1,500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมากกว่าค่าเหนื่อยเจ้าปัญหาของ แฟรงกี้ เดอ ยอง เกินสองเท่าเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากแข้งชาวดัตช์รับเงินแค่ 18 ล้านยูโรต่อปี
การอดทนรอเพื่อให้เมสซี่หมดสัญญากับเปแอสเชหลังจบฤดูกาลนี้แล้วค่อยเจรจาหาความเป็นไปได้เพื่อดึงเขากลับสู่คัมป์ นู จึงเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลมากกว่าในแง่ของการเงินซึ่งถือเป็นความสำคัญหลักของบาร์เซโลน่าในขณะนี้ และเมื่อดูแนวโน้มการย้ายทีมที่เพิ่งสูงขึ้นจากท่าทีของเมสซี่ในระยะหลัง ยิ่งทำให้ผู้บริหารบาร์เซโลน่ามีความมั่นใจสูงว่าการดึงเมสซี่กลับมาสู่ทีมในฤดูกาลหน้าแบบฟรี ๆ มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง
สัญญาณชัดเจนที่สุดซึ่งบ่งบอกว่าเมสซี่คงไม่ได้ไปต่อกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง คือเงื่อนไขการขยายสัญญาที่ระบุเอาไว้ว่าแข้งชาวอาร์เจนตินาสามารถยืดสัญญาออกไปได้อีกหนึ่งปีหากเจ้าตัวต้องการ แต่ตลอดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาไม่เพียงเมสซี่จะไม่มีท่าทีจะขยายสัญญากับเปแอสเชออกไป แต่ยังมีข่าวหนาหูว่าเจ้าตัวจะหันหลังให้กับฟุตบอลยุโรปเพื่อไปโลดแล่นบนโลกลูกหนังรอบสุดท้ายบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกากับ อินเตอร์ ไมอามี่ ทีมฟุตบอลของ เดวิด เบ็คแฮม ในศึกเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์
เหตุผลเดียวที่ทำให้ข่าวของเมสซี่กับอินเตอร์ ไมอามี่ เงียบหายไปคือความสนใจจากบาร์เซโลน่าที่ต้องการดึงตัวนักเตะรายนี้กลับมาสู่ทีมอีกครั้ง โดยในรอบเดือนที่ผ่านมาบุคคลสำคัญของทีมทั้ง ชาบี เอร์นานเดซ ผู้จัดการทีมและอดีตเพื่อนร่วมทีมของเมสซี่ รวมถึง โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสรคนปัจจุบันซึ่งเป็นบุคคลที่เมสซี่เคารพรัก ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาต้องการเมสซี่กลับสู่ทีมอีกครั้ง ซึ่งทางเมสซี่ก็ดูมีท่าทีตอบสนองชัดเจนว่าเขาก็เปิดโอกาสในการกลับมาสู่ทีมเช่นกัน
เมื่อสถานการณ์เป็นใจแบบนี้บาร์เซโลน่าจึงมีเวลาราวหนึ่งปีที่จะจัดการปัญหาหลังบ้านให้หมดไปเพื่อจะนำเมสซี่กลับสู่ทีมอีกครั้ง โดยเฉพาะปัญหาการเงินที่คาราคาซังอยู่ในขณะนี้ เพราะต่อให้เมสซี่ย้ายกลับสู่ทีมโดยไม่มีค่าตัวและใจถึงยอมลดค่าเหนื่อยลงครึ่งหนึ่งจากที่รับในปัจจุบันกับเปแอสเช บาร์เซโลน่าก็ยังต้องจ่ายเงิน 20.25 ล้านยูโร ซึ่งแน่นอนว่าเป็นจำนวนที่มากกว่าค่าเหนื่อยในปัจจุบันของแฟรงกี้ เดอ ยอง อยู่ดี
หันกลับมามองสถานะทางการเงินของบาร์เซโลน่าในปัจจุบัน สโมสรแห่งนี้ยังอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง เพราะสโมสรยังคงมีหนี้ค้างชำระอยู่เป็นจำนวนราว 1,500 ล้านยูโร หรือราว 55,000 ล้านบาท แถมบัญชีค่าเหนื่อยนักเตะในปัจจุบันยังไม่ผ่านกฎการเงินของ UEFA และกฎเพดานค่าเหนื่อยอันเคร่งครัดของลา ลีกา นำมาสู่ปัญหาการบีบบังคับให้แฟรงกี้ เดอ ยอง ต้องลดค่าเหนื่อยให้ไม่เกิน 10 ล้านยูโรต่อปีตามนโยบายค่าเหนื่อยในปัจจุบัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นบาร์เซโลน่ายังมีโอกาสเอาตัวรอดไปได้ในฤดูกาลนี้ เนื่องด้วย "คันโยกเศรษฐกิจ" ที่สโมสรเปิดใช้งานมาแล้วสามครั้ง นั่นคือการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดลา ลีกา ของสโมสร 10 และ 15 เปอร์เซ็นต์ ให้กับ Sixth Street เป็นเวลา 25 ปี แลกกับเงิน 267 และ 400 ล้านยูโร, การขายหุ้น Barca Studios จำนวน 24.5% ให้กับ Socios.com เป็นจำนวนเงิน 100 ล้านยูโร และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดบาร์เซโลน่าเตรียมจะเปิดใช้งานคันโยกที่ 4 ภายในเร็ววันนี้เพื่อให้ทีมเดินหน้าต่อไปได้ในฤดูกาลปัจจุบัน
หากเมสซี่ตกลงย้ายกลับบาร์เซโลน่าด้วยค่าเหนื่อยไม่เกิน 10 ล้านยูโรต่อปี บาร์เซโลน่าคงเปิดทางให้เมสซี่เข้ามาสู่ทีมได้สำเร็จแบบสบาย ๆ แต่โอกาสที่เมสซี่จะยอมลดค่าเหนื่อยในระดับนั้นย่อมมีไม่มาก เพราะนั่นหมายถึงเจ้าตัวต้องลดเงินเดือนตัวเองลงเหลือเพียง 25 เปอร์เซ็นต์จากที่รับอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งถ้าพูดกันแบบตรงไปตรงมา คงมีเพียงหนึ่งในล้านคนที่จะใจกล้ายอมลดรายได้ตัวเองในระดับนั้น
เมื่อบวกกับความจริงที่บาร์เซโลน่าเปิดใช้งานคันโยกทางเศรษฐกิจไปแล้วถึง 3 อัน แถมยังปรับลดค่าเหนื่อยนักเตะหลายคนไปแล้วหลายครั้ง แต่ทีมยังคงมีปัญหากับกฎเพดานค่าเหนื่อยของลา ลีกา จนต้องบีบให้เดอ ยอง ต้องลดค่าเหนื่อยอยู่
ยิ่งแสดงให้เห็นว่าหากบาร์เซโลน่าจะนำเมสซี่กลับมาสู่ทีมภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน มีแต่เมสซี่จะต้องยอมลดค่าเหนื่อยให้เท่ากับเพื่อนคนอื่นในทีมคือไม่เกิน 10 ล้านยูโรต่อปีเท่านั้น เว้นเสียแต่ว่าบาร์เซโลน่าจะหารายได้ก้อนใหญ่จนมีที่ว่างมากพอจะเซ็นสัญญาเมสซี่ในระดับค่าเหนื่อย 20-30 ล้านยูโรต่อปีได้
แน่นอนว่าบาร์เซโลน่าในฤดูกาลนี้คงไม่ใช้ค่าเหนื่อยที่มากถึง 560 ล้านยูโรต่อปีเหมือนฤดูกาลก่อน และคงไม่มีตัวเลขที่ติดลบจากเพดานค่าเหนื่อยลา ลีกา 144 ล้านยูโรเหมือนช่วงเปิดฤดูกาล แต่ด้วยการเคลื่อนไหวในตลาดซื้อขายล่าสุดของบาร์ซ่าที่ใช้เงินไปแล้ว 153 ล้านยูโร แสดงให้เห็นชัดว่าพวกเขายังพร้อมจะพาเหรดดึงนักเตะชื่อดังมากมายเข้ามาสู่ทีม แม้จะมีปัญหาการเงินด้านอื่นที่ยังจัดการได้ไม่เสร็จสรรพ
ความกังวลว่าบาร์เซโลน่าจะระเบิดเพดานค่าเหนื่อยอีกครั้งจึงยังคงไม่หายไป เมื่อบวกกับความดื้อรั้นที่จะรั้งนักเตะเอาไว้กับทีมแบบกรณีแฟรงกี้ เดอ ยอง และใช้คันโยกทางเศรษฐกิจกับกลเม็ดอื่นเพื่อลดค่าเหนื่อยนักเตะในทีมเอา เห็นได้ชัดว่ามีโอกาสสูงมากที่บาร์เซโลน่าจะเจรจาเพื่อดึงเอาเมสซี่กลับมาสู่ทีมโดยพ่วงความวุ่นวายทางการเงินติดตัวมาด้วยแล้วจึงค่อยแก้ปัญหาตามสถานการณ์ไปทีละขั้นแบบที่เห็นในปัจจุบัน
แต่ใช่ว่าทิศทางของบาร์เซโลน่าจะมีแต่ดิ่งลงเหว เพราะหากสโมสรสามารถคาดการณ์สถานะการเงินของตัวเองได้ถูกต้องจริงตามที่วางแผนไว้ ทีมดังแห่งคัมป์ นู จะได้กำไรกลับมาพยุงสโมสรราว 100 ล้านยูโรจากผลประกอบการในฤดูกาล 2021-22 ยิ่งกว่านั้นคันโยกที่ 4 ซึ่งบาร์เซโลน่ามีโอกาสจะเปิดใช้คือการขายส่วนแบ่งจากค่าลิขสิทธิ์สินค้าของสโมสรบาร์เซโลน่า 49.9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำให้พวกเขาได้เงินกลับมาถึง 400 ล้านยูโร หรือเกือบ 14,500 ล้านบาท
หากบาร์เซโลน่ายังคงได้เข้าไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งหมายถึงเงิน 100 ล้านยูโรที่สโมสรจะได้รับ และยังคงกดเพดานค่าเหนื่อยของนักเตะรายอื่นให้อยู่ภายใต้เกณฑ์ 10 ล้านยูโรได้ นั่นหมายความว่าบาร์เซโลน่ายังพอจะมีโอกาสที่จะนำเมสซี่เข้ามาในทีมได้สำเร็จ
แต่นั่นย่อมมาพร้อมกับปัญหาอื่นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไล่ตั้งแต่หนี้ระดับพันล้านยูโรที่ไม่ได้รับการชำระ ความไม่พอใจของนักเตะที่ต้องลดค่าเหนื่อยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไปจนถึงการเปิดคันโยกอีกหลายคันที่อาจไม่ส่งผลดีในระยะยาวต่อสโมสร
ความจริงคือหากบาร์เซโลน่าที่ยังคงติดหนี้มหาศาลและมีปัญหาท่วมหัวแต่ยังคงสามารถใช้เงิน 153 ล้านยูโร (หรืออาจมากกว่านั้น) และสามารถลงทะเบียนนักเตะได้ตามปกติ พวกเขาคงจะพอหาทางพาเมสซี่กลับบ้านได้แน่โดยลอกเลียนวิธีการที่พวกเขาเอาตัวรอดในฤดูกาลนี้คือการพยายามหารายได้ทุกช่องทางเข้าสู่ทีม และควบคุมรายจ่ายที่พอจะทำได้ในทุกช่องทาง จนมีช่องว่างมากพอให้ทีมสามารถจับจ่ายคว้านักเตะได้ตามต้องการ
แฟนบาร์เซโลน่าจึงไม่ควรกังวลมากนักว่าสโมสรจะสามารถนำ ลิโอเนล เมสซี่ กลับมาสู่ทีมได้หรือไม่ เพราะด้วยประสบการณ์ในการจัดการความวุ่นวายที่เกิดขึ้นช่วงเปิดฤดูกาลปัจจุบัน บวกกับเวลาอีกหนึ่งปีให้วางแผนต่าง ๆ ก็มีโอกาสสูงพอสมควรที่ตำนานหมายเลข 10 แห่งคัมป์ นู จะกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง
แต่สิ่งที่แฟนบาร์เซโลน่าควรกังวลมากกว่าคือแนวทางของสโมสรที่ยังคงจะดำเนินไปในลักษณะนี้ที่จำเป็นต้องใช้คันโยกทางเศรษฐกิจเอาตัวรอดไปในแต่ละฤดูกาลแต่ยังคงสะสมหนี้หลังบ้านเอาไว้มากกว่าหนึ่งพันล้านยูโร ซึ่งจำนวนหนี้ตรงนี้คงไม่ลดลงไปแน่หากเมสซี่ย้ายเข้ามาสู่ทีม จึงมีโอกาสไม่น้อยเลยว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ตำนานชาวอาร์เจนตินากลับมาสู่สโมสรแห่งนี้อีกครั้ง คุณจะได้ฟังเรื่องราวดราม่ามากมายออกมาจากสโมสรแห่งนี้อย่างแน่นอน